หากพูดถึงเครื่องใช้ในครัวแล้ว "มีดทำครัว" คงถูกเรียงอันดับมาเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน นอกจากมีดเชฟธรรมดา ๆ ทั่วไปแล้ว ก็ยังมีมีดอีกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นมีดแล่เนื้อ, มีดแล่ปลา หรือมีดซาชิมิ ทั้งคุณภาพและราคาก็มีตั้งแต่มีดที่ไม่แพงมากอย่างมีดทำครัวจากร้านไดโซะ ที่สามารถซื้อได้ในราคา 60 บาท ไปจนถึงแบรนด์ชั้นนำอย่าง Zwilling, Kyocera หรือ PENGUIN นอกจากนี้วัสดุของใบมีดก็ยังมีการพัฒนาจากเหล็กแบบดั้งเดิมไปเป็นสเตนเลสหรือเซรามิกที่ดูแลรักษาง่ายกว่าเดิมอีกด้วย
การใช้มีดที่ดีนั้น จะทำให้การทำอาหารง่ายขึ้น และยังช่วยลดเวลาและความเครียดในการทำอาหารได้ ดังนั้น เพื่อให้ผู้อ่านสามารถหามีดที่เหมาะกับตัวเองและสนุกไปกับการทำอาหาร ในครั้งนี้ ผู้เขียนจึงจะขอช่วยแนะนำอันดับมีดยอดนิยมที่สามารถสั่งซื้อได้ง่ายทางออนไลน์ให้ครับ
มีดทำครัวที่ดีนั้นจะส่งผลกับทั้งรูปลักษณ์, รสสัมผัส และรสชาติของอาหาร โดยปกติเเล้ว หลาย ๆ คนมักจะไม่ได้ใส่ใจในการเลือกซื้อมีดกันสักเท่าไหร่ บางคนอาจหาซื้อจากซูเปอร์มาเก็ตทั่วไป แต่ถ้าจะพูดกันจริง ๆ เราก็สามารถพูดได้ว่าว่ามีดทำครัวนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในครัวเลยทีเดียวครับ
หลายครั้งที่หากใช้มีดทำครัวจนชินแล้ว เราก็มักจะมองข้ามถึงความยากลำบากในการหั่นหรือความทื่อของมีด แม้กระทั่งมีดที่ราคาใกล้เคียงกัน มีดที่หาซื้อได้ในร้านทุกอย่าง 20 บาทก็ยังมีระดับความคมของมีดที่แตกต่างกัน การเปลี่ยนมีดเพียง 1 ครั้งจึงสามารถทำให้การอยู่ในครัวสนุกได้มากขึ้นอย่างง่ายดายเลยทีเดียวครับ
อีกทั้ง ปัญหาการดูแลมีดทำครัวและปัญหามีดหนักเกินไปจนทำให้เหนื่อยในการทำอาหารก็สามารถแก้ได้ด้วยการเลือกมีดทำครัวที่ถูกต้องเช่นกัน ! ดังนั้น สำหรับคนที่เลือกมีดทำครัวแบบ "ซื้อมีดแบบไหน ก็ใช้งานได้เหมือน ๆ กัน" เรามาศึกษาวิธีเลือกมีดทำครัวที่เหมาะกับการสไตล์ทำอาหารของตัวเองกันดีกว่าครับ
ต่อไปนี้ ทางผู้เขียนจะมาบอกเคล็ดลับในการเลือกมีดทำครัวแต่ละเล่ม เพราะว่ามีดทำครัวเป็นของที่เราจะต้องใช้ทุกวัน ดังนั้น เรามาเลือกมีดทำครัวที่ดีและใช้งานง่ายกันดีกว่าครับ
วัสดุในการทำมีดทำครัวนั้นมีมากมายหลายแบบ แต่ในบทความนี้ เพื่อความเข้าใจง่าย ทางผู้เขียนจะขอยกมาเพียงแค่ 4 ชนิดเท่านั้น เรามาเข้าใจข้อดีข้อเสียของแต่ละชนิด และมาเลือกมีดทำครัวที่เหมาะกับเรากันเลยครับ
มีดสเตนเลสนั้นมีเสน่ห์ตรงที่ขึ้นสนิมยาก ทำความสะอาดง่าย อีกทั้งราคาไม่แพง จึง ขอแนะนำสำหรับผู้ที่เป็นมือใหม่ในการทำอาหาร ผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับการใช้มีด และยังไม่ทราบว่าควรเลือกมีดจากวัสดุชนิดใด
อย่างไรก็ตาม ทั้งความคมและราคานั้นจะแตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของโมลิบดีนัมและทังสเตนที่ใช้ในการทำมีด หากเป็นสินค้าราคาแพง ความคมและความง่ายในการใช้งานจะเพิ่มขึ้นมากตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อดีอย่างความสมเหตุสมผลในด้านราคาและความง่ายในการใช้งานของมีดสเตนเลส ทำให้บางครั้งเราก็สามารถซื้อมีดทำครัวในราคาที่ไม่แพงมากมาใช้ แล้วค่อยเปลี่ยนมีดด้ามใหม่ในระยะเวลาสั้น ๆ ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีครับ
มีดเหล็กนั้นเหมาะสมกับพ่อครัวแม่ครัวมืออาชีพหรือเชฟ ด้วยความคมอันเป็นที่สุดและสามารถลับมีดเพื่อรักษาความคมได้เรื่อย ๆ หากเลือกซื้อมีดคุณภาพดีแล้ว ก็สามารถเก็บรักษาไว้ได้ตลอดชีวิตเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม มีดเหล็กนั้นสามารถป็นสนิมได้ จึงไม่ควรจัดเก็บหรือปล่อยทิ้งไว้ในสภาพที่เปียกน้ำอย่างเด็ดขาด และต้องใส่ใจในเรื่องการดูและรักษาอย่างสม่ำเสมอ มีดเหล็กจึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการดูแลรักษา อีกทั้งแม้มีดเหล็กจะไม่ต้องใช้แรงมากมายก็สามารถหั่นวัตถุดิบต่าง ๆ ได้ แต่ก็มีผู้ใช้งานบางส่วนกล่าวว่ามีดเหล็กนั้นหนักเกินไปสำหรับผู้หญิงเช่นกัน
มีดเหล็กนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นก่อนซื้อมาใช้จึงพิจารณาถึงเรื่องการทำความสะอาดหลังการใช้งานกันก่อนครับ
มีดเซรามิกและมีดไทเทเนียมนั้นเหมาะกับคนที่มองหามีดทำครัวที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย มีดชนิดนี้จะไม่ทำให้อาหารมีกลิ่นของโลหะติดอยู่หลังจากการหั่น จึงเหมาะกับคนที่กังวลเรื่องกลิ่นของเหล็กที่จะไปติดอยู่ที่อาหารบางอย่าง เช่น ซาชิมิ แม้จะมีความทนทานของใบมีดอยู่ในระดับต่ำ แต่ว่าทำความสะอาดง่ายเนื่องจากเป็นสนิมยาก และมีน้ำหนักเบาทำให้ง่ายต่อการใช้งานครับ
ส่วนมีดไทเทเนียมนั้นมีระดับสุขอนามัยที่สูง ทำความสะอาดง่ายเพราะเพียงแค่ถูกแสงอาทิตย์หรือแสงไฟนีออนก็เกิดการฆ่าเชื้อตามธรรมชาติแล้ว เป็นสนิมยาก ทนความร้อน และยังสะดวกมากเพราะสามารถใช้กับเครื่องล้างจานได้ แม้ด้านความคมของใบมีดจะยังสู้มีดชนิดอื่นไม่ได้ แต่ก็ขอแนะนำสำหรับคนที่มีเวลาไม่มากครับ
ทางผู้เขียนขอแนะนำให้เลือกมีดหลักสำหรับใช้ทั่วไปในครัวเรือน 1 เล่ม, มีดรอง 1 เล่ม และมีดเฉพาะทางที่เหมาะสมกับการงานต่าง ๆ อีก 1 เล่ม ซึ่งในบทความนี้จะขอแนะนำวิธีเลือกมีดหลัก, มีดรองและมีดเฉพาะทางสำหรับทุก ๆ ท่านกันครับ
สำหรับมีดเล่มแรก หรือมีดหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวันนั้น ทางผู้เขียนขอแนะนำให้ใช้มีดเชฟหรือมีดหั่นเนื้อ เพราะทั้งคู่นั้นถือว่าเป็นมีดอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ได้ครอบคลุมกับวัตถุดิบเกือบทั้งหมด
ขนาดของใบมีดโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 6-8 นิ้ว วิธีการเลือกขนาดของมีดที่เหมาะสมกับตัวเองนั้น ให้เลือกมีดที่มีขนาดสองกำปั้นของตัวเองเป็นเกณฑ์ อย่างไรก็ตาม การใช้มีดที่ใบมีดยาวกว่าขนาดของเขียงจะค่อนข้างอันตราย ดังนั้นการเลือกมีดทำครัวจึงควรพิจารณาถึงขนาดของเขียงและขนาดของอ่างล้างจานของตัวเองด้วยครับ
นอกจากนี้ สำหรับคนที่ไม่มีโอกาสทำอาหารบ่อย ๆ ทางผู้เขียนขอแนะนำมีดเล็กขนาดประมาณ 5 นิ้ว แม้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับการทำอาหารจำนวนมาก แต่ก็เพียงพอและเหมาะสมกับการเป็นมีดหลักของการทำอาหารในปริมาณหนึ่งคนครับ
ถ้าต้องการหั่นวัตถุดิบชิ้นเล็ก ๆ อย่างไส้แซนด์วิช, ปอกเปลือกของผักหรือว่าผลไม้ "มีดเล็ก" ที่มีใบมีดที่สั้นหรือ "มีดปอกผลไม้" ขนาดเล็กจะสะดวกที่สุดครับ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ยัง มีมีดหั่นผักที่ใช้สำหรับหั่นผักต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่นมะเขือเทศโดยเฉพาะวางจำหน่าย อยู่ด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่ต้องการมีดขนาดเล็กที่ใช้งานได้ง่าย ๆ ก็สามารถลองค้นหาดูได้ครับ
มีดรองยังเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการทำอาหาร เพราะเหมาะกับงานขนาดเล็ก เช่น งานแกะสลักตกแต่งจาน หรือตกแต่งเบนโตะเป็นรูปการ์ตูนต่าง ๆ เพราะสามารถหมุนหรือหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ง่ายไม่เหมือนกับมีดขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การหั่นหรือแกะสลักอาหารขนาดเล็กนั้นความคมของใบมีดก็มีส่วนด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ควรมองแค่ขนาดแต่เพียงอย่างเดียว แต่ก็ควรเลือกให้เหมาะกับประเภทของอาหารที่จะทำด้วยครับ
มีดเฉพาะทางนั้นมีหลากหลายประเภทและสะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็นมีดซาชิมิหรือมีดหั่นขนมปัง ก็ถือว่าเป็นมีดเฉพาะทางชนิดหนึ่ง แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อมีดทุกประเภทมาไว้ที่บ้าน เพราะจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ การเลือกมีดเฉพาะทางควรจะเลือกจากความถี่ในการใช้งาน ไม่ใช่การซื้อมีดที่ไม่จำเป็นหรือซื้อมีดที่สามารถใช้มีดหลักแทนกันได้
การเพิ่มจำนวนของมีดย่อมหมายถึงพื้นที่เก็บของและการดูแลรักษาที่มากขึ้น ดังนั้น ผู้เขียนไม่แนะนำให้ซื้อมีดที่สามารถใช้มีดเชฟหรือมีดแล่เนื้อทดแทนกันได้ การเลือกมีดเฉพาะทางจึงควรเลือกหลังจากตัดสินใจแล้วว่าเป็นมีดที่ต้องการจริง ๆ ครับ
เมื่อคุณพบมีดหลักที่เหมาะสมกับตัวเองได้แล้ว เราขอแนะนำให้เลือกมีดรองหรือมีดเฉพาะทางจากแบรนด์ชื่อดัง รุ่นเดียวกัน เพราะมันง่ายกว่าที่จะเลือกมีดที่เหมาะสมกับคุณ โดยที่ไม่จำเป็นต้องกังวลถึงเรื่องความคมหรือความยากง่ายในการถือมีด
ถ้าจะเลือกมีดแบบครบวงจรก็ต้องแบรนด์ Penguin หรือ Zebra ถ้าซีเรียสกับใบมีดก็ต้องแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Kyocera หรือ Ogami หรือแบรนด์เยอรมันอย่าง HENCKELS ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน และเมื่อเร็ว ๆ นี้ยังมีมีดจำนวนมากที่มีดีไซน์สวยงาม หรือมีดที่ออกแบบให้เหมาะกับดีไซน์ของห้องครัววางจำหน่ายอีกด้วย ดังนั้นก่อนอื่น มาหามีด 1 เล่มที่เหมาะกับคุณกันดีกว่าครับ
หลายคนคงทราบกันอยู่แล้วว่ามีดมีหลายรูปแบบ หลายทรง และแต่ละประเภทถูกทำออกมาให้เหมาะสมกับการใช้งานที่ต่างกัน แต่ถ้าหากพูดถึง "มีดอเนกประสงค์" ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายแล้วล่ะก็ "มีดอีโต้" นับว่าเป็นอันดับที่หนึ่งได้เลย เพราะไม่ว่าจะเป็นการสับ, ตัด, หั่น, ซอย ทำได้ทุกอย่าง เชื่อว่าแทบทุกบ้านจะต้องมีติดตัวแน่นอน นอกจากนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้ คืออุปกรณ์ใช้ร่วมกันอย่าง "ที่ลับมีด" ซึ่งช่วยให้เราสามารถใช้งานมีดได้นานขึ้นและยังเพิ่มความ "คม" ของมีดได้เสมอ หากคุณซื้อมีดแล้วก็ไม่ควรลืมที่จะซื้อที่ลับมีดด้วยนะคะ
หลังจากได้รู้เคล็ดลับวิธีเลือกมีดกันไปแล้ว ถัดจากนี้ทางผู้เขียนได้ยกมีดทำครัวยอดฮิตมาแนะนำแก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่านถึง 10 อันดับ โดยสินค้าทั้งหมดนี้ได้คัดสรรมาแล้วทั้งเรื่องคุณภาพ, ราคา, ความคุ้มค่าและความทนทาน หากพร้อมแล้ว ไปรับชมกันเลย !
เริ่มต้นกันด้วยมีดแบรนด์ไทยยี่ห้อ KOM KOM ที่คมสมชื่อ โดยมีดนี้มีจุดเด่นที่ใบมีดที่คม แข็งแรงทนทาน ด้ามที่ทำจากไม้ทำให้น้ำหนักของมีดกำลังดี ไม่เบาไม่หนักจนเกินไป เหมาะสำหรับทำอาหารหลากหลายชนิด และมีดชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนทำอาหารว่าใบมีดคม, คุณภาพดี, ใช้ได้นาน และราคาไม่แพง เหมาะสำหรับผู้อ่านที่อยากเริ่มที่จะทำอาหารทุกคน หากต้องการมีดที่คุณภาพดีและราคาไม่แพง รับรองว่าซื้อเล่มนี้ไปไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
หากพูดถึงมีดทำครัวแล้ว เราจะขาดมีดปังตอไปไม่ได้เลย สำหรับมีดชนิดนี้ ผู้เขียนขอแนะนำมีดปังตอจาก Mora-Ya ที่รับประกันคุณภาพด้วยเสียงรีวิวอันล้นหลาม ด้วยใบมีดที่ทำจาก สเตนเลสชั้นเยี่ยม เนื้อหนาทนทาน น้ำหนักขนาดกำลังดีที่เหมาะทั้งสับ, หั่น และตัด ดีไซน์ที่สวยงามเรียบหรู อีกทั้งฟังก์ชันรอยหยักพิเศษบนปลายสันมีด ที่ช่วยในการสับโครงกระดูกต่าง ๆ ดังนั้นผู้เขียนจึงขอรับรองว่าหากซื้อมีดเล่มนี้ไป ไม่มีทางผิดหวังแน่นอนครับ
นอกจากมีดเชฟแล้ว มีดอีกชนิดหนึ่งที่เราขาดในครัวไม่ได้เลยก็คือมีดเล็ก หรือมีดปอกผลไม้ครับ ซึ่งสำหรับมีดปอกผลไม้แล้ว ทางผู้เขียนขอแนะนำมีดรุ่น VARDAGEN ของ IKEA ให้กับผู้อ่านทุกท่าน เพราะใบมีดนั้นยอดเยี่ยมด้วยคุณภาพระดับมาตรฐานยุโรป ผลิตด้วยสเตนเลสโมลิบดีนัม/วาเนเดียม ทำให้ตัวใบมีดมีความคม เหนียว และทนทานมากกว่าสเตนเลสธรรมดา ๆ ส่วนเรื่องขนาด ตัวมีดเล่มนี้ก็ออกแบบมาได้เป็นอย่างดีครับ ด้วยใบมีดเล็กขนาดกะทัดรัด และด้ามจับที่เหมาะมือ ทำให้มีดรุ่นนี้เหมาะสำหรับใช้เป็นมีดปอกผลไม้ของคุณครับ
ต่อกันด้วยมีดตรา Seagull หรือตรานกนางนวล ด้วยชื่อเสียงจากแบรนด์ที่คนไทยรู้จักกันดีทุกคนทำให้ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องคุณภาพเลยครับ มีดรุ่นนี้ใบมีดผลิตจากสเตนเลสชั้นเยี่ยม ทำให้มีน้ำหนักที่เบา คม และไม่เป็นสนิม ใบมีดถูกออกแบบมาให้เป็นแบบ วี-เชฟ ทำให้เหมาะกับทุกวัตถุดิบ ด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยมและราคาที่ไม่แพง ทำให้ผู้เขียนขอแนะนำมีดเล่มนี้ให้เป็นมีดหลักสำหรับมือใหม่หัดทำอาหารครับ
หากพูดถึงมีดเหล็ก ไม่ว่าใครก็ต้องนึกถึงมีดอรัญญิกจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างแน่นอน ด้วยใบมีดที่ตีด้วยเหล็กกล้า และเทคนิคกระบวนการผลิตที่เป็นภูมิปัญญาไทยจากตำบลอรัญญิก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่สืบเนื่องกันในท้องถิ่นมายาวนานกว่า 200 ปี ทำให้เชื่อมั่นได้เลยในคุณภาพ, ความคม และความทนทานที่รู้กันทั่วไปว่าสามารถใช้กันได้จนถึงชั่วลูกชั่วหลาน สำหรับคนที่ต้องการมีดเหล็กแท้ที่ดี ๆ และคม ๆ สักเล่ม รับรองว่ามีดเล่มนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ต่อไปมากันที่มีดเซรามิกกันบ้างครับ สำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการมีดทำครัวดี ๆ สักเล่ม ทางผู้เขียนขอแนะนำมีดเซรามิก รุ่นนี้จาก Kyocera เลยครับ ด้วยใบมีดที่เป็นเซรามิก ทำให้ตัวมีดมีน้ำหนักที่เบากว่ามีดชนิดอื่น ๆ ความคมที่มากกว่าเหล็กทั่วไปถึง 10 เท่า อีกทั้งเพราะใบมีดไม่ใช่โลหะจึงทำไม่เกิดสนิมและไม่ส่งกลิ่นของโลหะไปยังอาหาร และถนอมความสดของวัตถุดิบได้ดีกว่ามีดชนิดอื่น ๆ ด้วยคุณภาพที่ดีเยี่ยม, น้ำหนักที่เบาและขนาดที่กะทัดรัด ทางผู้เขียนจึงขอแนะนำมีดเล่มนี้ให้กับคุณผู้หญิงที่รักการทำอาหารทุกท่านครับ
ชิ้นต่อไปมาเป็นชุดกันบ้าง กับชุดมีดทำครัวครบวงจรจากยี่ห้อ Penguin ที่หลาย ๆ ท่านรู้จักกันดี ด้วยใบมีดที่ทำจากสเตนเลสพิเศษที่ทำให้ใบมีดทั้งคม, แข็งแรง, ทนทาน และไม่เกิดสนิม ด้ามจับที่ทำจากไม้ทำให้มีน้ำหนักที่เหมาะกับการทำอาหารประเภทต่าง ๆ โดยชุดมีดนี้ที่ประกอบด้วย มีดสับด้ามไม้ขนาด 8 นิ้ว, มีดปลายแหลมปาดเนื้อขนาด 9 นิ้ว, มีดครัวขนาด 7 นิ้ว และมีดปอกผลไม้ อย่างละ 1 เล่ม ทำให้ครอบคลุมทุกรูปแบบการทำอาหาร เป็นได้ทั้งมีดหลักและมีดรอง เหมาะสำหรับพ่อครัวแม่ครัวมีดโปรที่รักการทำอาหารทุกคนครับ
สำหรับมีดทำครัวอันดับหนึ่ง จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก มีดเชฟ รุ่น Twin Pollux ตรา Zwilling ด้วยคุณภาพมาตรฐานเยอรมันที่เชฟทั่วโลกให้การยอมรับ และจุดเด่นของมีดเล่มนี้อยู่ที่ใบมีดผลิตด้วยเทคโนโลยีลับเฉพาะของ Zwilling อย่าง “FRIODUR®” ทำให้ใบมีดมีความคม, เหนียว, ยืดหยุ่นและไม่แตกหักง่าย ๆ น้ำหนักของตัวมีดที่เบาและดีไซน์ที่เรียบหรู ดูมีสไตล์ แม้ราคาจะดูแพงไปสักเล็กน้อยแต่เมื่อเทียบกับคุณภาพที่จะได้เเล้ว ผู้เขียนขอรับรองว่าคุ้มค่าและไม่ผิดหวังแน่นอน
มีดครัว รุ่น Chef ตรา Zebra หรือตราหัวม้าลาย ยี่ห้อเครื่องครัวสเตนเลสที่เป็นที่นิยมและครองตลาดครัวไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยชื่อเสียงที่เล่าขานกันดีทำให้ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องคุณภาพ นอกจากนี้ ตัวมีดยังทำจากสเตนเลสคุณภาพมาตรฐาน SUS420 ผลิตเป็นมีดใบเดียวไร้รอยต่อ และที่สำคัญ ยังลับคมมีดด้วยระบบพิเศษอย่าง Taper Grind Blade ทำให้เหมาะสำหรับคนที่รักในการทำอาหารเป็นอย่างยิ่ง และผู้เขียนขอยืนยันได้เลยว่า ซื้อมีดเล่มนี้ไปไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
มากันที่มีดญี่ปุ่นกันบ้าง กับมีดเชฟ รุ่น Balmung 1 ตรา Okami หรือตราหมาป่า นอกจากความคมที่รู้กันทั่วไปของมีดสัญชาติญี่ปุ่นแล้ว จุดเด่นของมีดเล่มนี้อยู่ที่ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวของตัวมีดครับ และไม่ใช่แค่สวยงามเพียงอย่างเดียว ด้วยใบมีดและด้ามจับที่โค้งกำลังดี ทำให้สามารถใช้หั่นตั้งแต่เนื้อชิ้นโต รวมไปถึงผลไม้ชิ้นเล็ก ๆ ได้อย่างเหมาะสมและง่ายดายครับ ด้วยความคม, คุณภาพ และความสวยงามของทั้งด้ามจับและใบมีด จึงขอแนะนำมีดเล่มนี้ให้กับคนรักมีดทั้งหลายที่ต้องการมีดเล่มใหม่ดี ๆ สวย ๆ สักเล่มไว้ใช้งานในห้องครัวของตัวเองครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับบทความการเลือกมีดทำครัวและมีด 10 เล่มที่เราแนะนำกันไปในบทความนี้ แม้ขั้นตอนการเลือกมีดอาจจะดูยุ่งยากและน่ารำคาญอยู่บ้าง แต่การทำอาหารเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการใช้ชีวิต และมีดก็เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้ในทุก ๆ วัน ดังนั้นหากเราสามารถเลือกมีดที่เหมาะสมกับตัวเองได้แล้ว รับรองว่ามันจะคุ้มค่าและการทำอาหารจะกลายเป็นเรื่องน่าสนุกและมีความสุขอย่างแน่นอนครับ